REVIEW : Exilis Elite ยกกระชับหน้าแบบไม่เจ็บตัว

สวัสดีค่าาา เมื่อประมาณ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาเนี่ย

นุ๊กได้มีการ live ในเฟสบุ๊คกลายๆว่านุ๊กเนี่ย ได้มาลองทำ Exilis Elite

ที่รัสมิ์ภูมิคลินิก

ซึ่งมีเพื่อนๆหลายคนสอบถามว่า มันคืออะไร แล้วผลลัพธ์ของมันคืออะไร

นุ๊กเลยได้ทำการรวบรวมข้อมูลต่างๆ ของเจ้า Exilis Elite มาบอก

ซึ่งหลายคนไม่เคยได้ยินแน่ๆ ลองมาดูพร้อมๆกันค่า

ใน blog นี้นุ๊กจะพยายามใช้คำพูดที่เข้าใจง่ายเพื่อจะได้ไม่งงนะค้า

Exilis-Elite-logo

ต้องบอกก่อนว่าเจ้า Exilis Elite เนี่ยคือคลื่นความถี่สูงแบบขั้วเดียว

ที่ส่งผ่านพลังงานแบบเจาะจงอย่างต่อเนื่องเป็นแบบ Monopolar

ซึ่งการทำงานของเค้าเนี่ย จะคล้ายๆเจ้า Thermage

แต่ข้อแตกต่างของ Exilis Elite กับ Thermage เนี่ย

คือ Exilis Elite จะส่งผ่านความร้อนแบบค่อยๆไล่ระดับ ใช้การคลึง

หมุนวนเพราะฉนั้นจะไม่เจ็บเลย ไม่ต้องใช้ยาชา สบายๆค่ะ แต่ Thermage เนี่ย ใช้การยิง

เป็นจุดๆไป และเจ็บกว่า ต้องใช้ยาชาค่ะ แถมค่า Shot ใช้จ่ายทีนึงสูงด้วย ต้องทำเยอะถึงเห็นผล

แต่ผลลัพธ์ของเค้าจะออกมาคล้ายๆกันค่ะ คือการยกกระชับนั่นแหละ

gl1KqHSg

โอเค นุ๊กก็กระเตงตัวเองมาที่รัสมิ์ภูมิคลินิกค่ะ คลินิกอยู่แถวพระราม 2 ใครสะดวกก็มาได้เลย

ที่นี่มีบริการหลายอย่าง แต่เด็ดสุดคือที่นี่มี Exilis Elite ค่ะ

มาถึงปุ๊ปก็ได้รับการดูแลอย่างดีจากพี่ๆ

เข้าไปประเมินหน้ากับคุณหมอหนุ่มได้เลยย คุณหมอมีชื่อเสียงทางด้าน Botox Filler และเป็นผู้เชี่ยวชาญ

การดีไซน์รูปหน้าให้สวยงามอีกด้วย

vlaVHL0r

นุ๊กอยากให้เหนียงที่มีอยู่น้อยลง คือเก็บเหนียงนั่นแหละ

ขอหน้าวีเชฟขึ้นอีกนึดนึง ซึ่งการทำ Exilis Elite เนี่ย

จะสามารถไปกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวของเราได้ด้วย (คอลลาเจนจะหยุดสร้างเมื่ออายุเยอะขึ้นนะคะฮือๆ)

ทำให้มีการจัดเรียงโมเลกุลของคอลลาเจนได้ดีขึ้น พวกริ้วรอยเล็กๆก็จะดีขึ้นค่ะ

ต้องบอกก่อนว่าคนที่มีปัญหาผิวไม่กระชับตัวนี้เหมาะมาก แล้ว Exilis Elite เค้ามีหลายหัว

คือสามารถทำได้ทุกส่วนในร่างกายเช่น พุง ต้นขา ต้นแขน คุณแม่ที่คลอดแล้วย้วยมาได้เลย

จุดที่มีผิวเปลือกส้มไขมันสะสม แบบคุณผู้ชายเล่นฟิตเนส

ซิกแพ็คไม่ขึ้นก็มาทำได้ สรุปคือ นางยกกระชับก็ได้ สลายไขมันก็ดี

เห็นผลในเรื่องของไขมันแบบชัดเจนเลย ถ้าเป็นที่ตัวค่ะ

แอบเอารูปมาให้ดู นี่คือทำ 4 ครั้งนะ ตะลึง

gallery4

exilis4

ทำกันเป็นเรื่องเป็นราว

14

อ่านมาถึงนี่ละ ก่อนเราไปถึงขั้นวิธีทำนุ๊กขออธิบายก่อนว่าเราควรทำกี่ครั้ง

โดยปกติแล้วถ้าเป็นในส่วนของหน้า แนะนำให้ทำ 2 ครั้งห่างกัน 1 อาทิตย์

ตัวนี้จะเห็นผลชัดเจนประมาณ 3 เดือนและผลจะคงอยู่ไปอีกเป็นปี

แต่สำหรับตัว เราแนะนำให้ทำ 4 ครั้งค่ะ โดยจะเห็นผลชัดเจนจากครั้งสุดท้ายที่ทำประมาณ 2 เดือน

ข้อแนะนำก่อนทำ จะขึ้นไปทำแล้วก็ขอบอกนีสนึง

ทานน้ำให้มากค่ะ เพื่อป้องกันการ burn ของผิว (แต่เครื่องมีระบบตัดการทำงานถ้า burn อยู่แล้วหายห่วง)

คนที่มีโลหะในร่างกาย โรคหัวใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนนะคะ

ฉีดโบท็อก ฟิลเลอร์สามารถทำได้ค่ะ แนะนำให้เว้นระยะ ประมาณ 1 เดือนค่ะ

FPthlSA

อุปกรณ์ในการทำก็จะได้ Ultra sound Gel คล้ายๆเจลที่ใช้ทาเวลาซาวคนท้อง

แต่เป็นเจลสีขาวค่ะ ใช้ได้ไม่แพ้ ตัวนี้จะทำหน้าที่เหมือนเป็นตัวกลางระหว่างผิวกับเครื่อง

ช่วยให้ไหลลื่น ส่งคลื่นความถี่และไม่ไหม้ค่ะ

HA8cCRCg

แล้วเราก็จะมีแผ่นประจุแปะที่หลัง ด้านขวาอีกที อารมณ์เหมือนเป็นขั้วบวกขั้วลบ ให้เครื่องทำงานนั่นแหละ

ที่ไม่แปะด้านซ้ายเพราะเราหลีกเลี่ยงหัวใจค่ะ

36A1mZO

หลังจากแปะเรียบร้อย ก็หันมาดูหน้าตาเครื่อง Exilis Elite กันบ้าง

tQD13Kpr

อย่างกับ Wall E (โอ้ยใครเกิดทัน 5555) ตัวเครื่องทันสมัยใหม่สุดๆ

หัวที่เราใช้กับหน้าจะเป็นแบบนี้ค่ะ

61qtNrp

ขั้นตอนการทำก็ชิวๆมากค่ะ พนักงานจะนำเจลอัลตร้าซาวน์มาปาดที่หน้าเรา

เกลี่ยเรื่อยๆ ค่อยๆวนนวด Exilis Elite ไปบนหน้าเราค่ะ ความรู้สึกเวลาทำเครื่องนี้คือ

ไม่เจ็บ ไม่แสบ มีเพียงความร้อนค่ะ ร้อนแบบอุ่นๆทนได้ ก็รู้สึกเหมือนนวดหน้าร้อนๆ

ความร้อนมากน้อยก็แล้วแต่คน ร้อนไปก็เอาลงได้ค่ะ โดนปกติเราจะทำข้างละประมาณ

6 นาทีค่ะ สามารถทำได้ทุกส่วนบนใบหน้า

อย่างนุ๊กนี่ทำบริเวณกรอบหน้ากับเหนียงค่ะ

เป็นส่วนที่กังวลมากที่สุด ตอนทำก็แฮปปี้ดีค่ะ แอร์เย็นๆ รู้สึกอุ่นๆที่หน้า

โดยความร้อนเนี๊ยะ เค้าจะสะสมอยู่ในชั้นผิวของเราประมาณ 48 ชั่วโมงนะ

อาจจะรู้สึกหน้าอุ่นๆ ไม่ต้องตกใจ

iiIUe7gg

ตัวเครื่องจะตัดความร้อนทุกๆ 30 วินาทีจะมีเสียงปิ๊บๆ เพื่อให้เราพักหน้าจากความร้อน

ตัวไฟสีฟ้าจะแสดงว่าตัวเครื่องเนี่ย แนบสนิทอยู่กับใบหน้าของเรา

oVrHv5Gg

หลังทำทันทีก็เป็นแบบนี้เลยค่ะ อาจจะมีร้อนๆแดงๆนิดหน่อย

อาการเหล่านี้จะหายไปค่า

50o84tWg

หลังจากทำเสร็จก็กลับบ้านได้ตามปกติเลยค่ะ นุ๊กทำครบ 2 ครั้งเรียบร้อย

ซึ่งเพื่อนๆสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงราคาได้ที่รัสมิ์ภูมิได้เลยค่ะ

IG: dr_rassapoom ,
rassapoomskinclinic
Facebook:www.facebook.com/drrassapoomfanpage

หรือสามารถแอด line ไปสอบถามได้เลย ที่ Line id : rassapoom2

หลังจากการทำจะรู้สึกว่าหน้าดูฟูกระชับขึ้น แต่จะชัดเจนเมื่อผ่านไป 3 เดือนค่ะ

ซึ่งไว้ครบตามเวลานุ๊กจะมารีวิวให้ดูใหม่อีกทีนะคะ

XuP3dC1g

ยังไงต้องขอบคุณรัสมิ์ภูมิคลินิกด้วย

เพื่อนๆก็อย่าลืมแวะมาลองทำกันนะคะ

วันนี้นุ๊กไปก่อนแล้วค่า ไว้เจอกันใหม่เด้ออ

Surgery: ฉีด Filler หน้าผากและถุงใต้ตา (Dolly eye)

Surgery: ฉีด Filler หน้าผากและถุงใต้ตา (Dolly eye)


รีวิวนี้เป็นความเห็นและข้อมูลส่วนบุคคล เป็นรีวิวที่ได้ทำจริง เสียเงินจริงกรุณางดแอบอ้าง

การนำรูปไปใช้ ขอสงวนสิทธิ์ในรูปและบทความค่ะ

ท่ามมมมมท๊ามมมม เชื่อค่ะว่าหลายคนรอ blog นี้มาแบบตื่นเต้น

เกริ่นก่อนเลยเหมือนที่ได้พูดไปในคลิปว่า มีประสบการณ์ไม่ดี เกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์

ขออนุญาติเอาภาพเก่ามาให้ดู เนื่องจากฉีดคางครั้งแรก มันบวมช้ำมากกก

12166222_422203931311879_1715899597_n

ทำให้นุ๊กรู้สึกกลัวการฟิลเลอร์ไปเลย แต่ก็ยังคงวอแวกับการฉีดหน้าผากอยู่

เพราะนุ๊กหน้าผากแบน แล้วอยากหัวนูนมาก คืออยากหน้าผากสวยอะไรแบบนี้

แต่พอมันต้องฟิลเลอร์ก็เลยเปลี่ยนใจ พับเก็บโครงการไปก่อน

ทีนี้ ก่อนหน้านี้นุ๊กได้มีโอกาสทำตาสองชั้นที่ StarMed Clinic กับคุณหมอดาว

ตามที่เราได้เขียน blog ไปก่อนหน้านี้

ดูรีวิวทำตาที่นี่ 

EAqoV0n

(ก่อนทำเหนือคิ้วแบน หน้าผากแบน)

แล้วนุ๊กก็ปรึกษาคุณหมอหลายเรื่อง เพราะคุณหมอรับฉีดฟิลเลอร์ โบท็อก เมโสแฟตด้วย

พอได้ยินนุ๊กก็ตาวาวอยากทำมากๆ ทั้งหน้าผาก แล้วก็ดอลลี่อาย

ตัดสินใจอยู่นานมาก นุ๊กเลือกระหว่างการฉีดฟิลเลอร์ กับการฉีดไขมันตัวเอง

มันมีข้อดีข้อเสียต่างกันอยู่ อย่างฟิลเลอร์มันต้องแอบกลัวบ้าง ว่าจะไหลมั้ยหรือยังไง

แต่ไขมันเนี่ย ยังไงก็ดูปลอดภัยกว่า แต่การยุบตัวของไขมันเนี่ยเค้าจะเป็นคลื่น

ซึ่งฟิลเลอร์ไม่เป็น อีกอย่างคือการฉีดไขมันเนี่ยเราไม่สามารถคาดการณ์ว่า

มันจะยุบตัวเยอะขนาดไหน บวกกับการเติม ฟิลเลอร์เติมได้สะดวก

ส่วนไขมันเนี่ยต้องดูดที่ใหม่ เพราะที่เดิมจะเกิดพังผืดแล้ว ใช้ไขมันบริเวณนั้นไม่ได้อีก

นี่คือข้อมูลคร่าวๆที่นุ๊กปรึกษาหลายคน รวมถึงคุณหมอด้วย

ทุกคนก็จะพยายามเบรค แบบว่าคิดดีๆน้า ฟิลเลอร์ก็กลัว ไขมันก็ไม่กล้า

kETi9mUg

ฟิลเลอร์ยี่ห้อต่างๆ

T4VoSDN

แต่ความสวยมันต้องมาก่อน เลยตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์

สำหรับ Filler หน้าผาก ที่คุณหมอดาวเลือกใช้เป็นของ Perfectha รุ่น Subskin

เป็นฟิลเลอร์สำหรับหน้าผากโดยเฉพาะ ของประเทศฝรั่งเศส

ในประเทศเรามี Filler ที่ผ่านอย.อยู่หลายตัว แต่ละตัวก็จะใช้ต่างๆกันไป

ตามส่วนที่ฉีด ไม่ใช่ว่าตัวเดียวฉีดทุกที่อะราวเดอะเวิล์ดไม่ใช่นะ 555555

ความยากของการฉีดหน้าผาก คือ เป็นจุดที่มีเส้นประสาทเยอะมาก ทั้งเส้นประสาทตา เส้นเลือดต่างๆ

หากทำโดยแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ มีโอกาสโดนเส้นประสาท ตาบอดได้ ตามที่เราเห็นข่าว

พอรู้แบบนี้แล้ว คงเดาได้ว่าทำไมนุ๊กถึงฉีดกับหมอดาว เพราะหมอดาวเป็นหมอตาค่ะ

ชำนาญมาก รวมถึงคุณหมอเป็นวิทยากรในการฉีดฟิลเลอร์ ร้อยไหมด้วย

เรียกว่าตัวแม่นั้นแหละ 5555555555 พูดถึงฟิลเลอร์ต่อ

1 กล่อง มีด้วยกันทั้งหมด 3 c.c. จำนวนการใช้ก็ขึ้นอยู่กับโครงหน้าของเรา แล้วก็

การวิเคราะห์ของคุณหมอ ที่นี่จะเน้นธรรมชาติ เข้ากับรูปหน้า

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก คุณหมอจะใช้เข็มเฉพาะที่เรียนว่า เข็มแคนนูลา

เป็นเข็มปลายทู่เนื่องจากต้องใช้ความลึกในการฉีด (ลึกมาก) เจ้าตัวเข็มปลายทู่

มีข้อดีคือ ไม่เจ็บมาก ลดปัญหาการฉีดโดนเส้นเลือด และต้องฉีดในชั้นที่ลึกพอ

ระยะเวลาของ Filler ตัวนี้อยู่ได้ประมาณ 18-24 เดือน โดยจะค่อยๆสลายตัว

และสลายตัว 100% ไม่บวม ไม่ช้ำ ไม่เขียว ไม่ต้องพักฟื้นและสามารถฉีดเติม และฉีดสลายได้ หากต้องการ

ซึ่งทางหมอดาวเลือกใช้ตัวนี้เพราะนิ่ม ไม่เป็นไตหรือก้อนแข็งด้วย

ก็จะดูธรรมชาติมากๆ และผ่านอย.แน่นอน

นุ๊กขอบอกก่อนเลยว่าคุณหมอโปรมากกกกก ลองดูในคลิปดู

คุณหมอบอกว่า บางที่ ใช้การปั้นฟิลเลอร์เอา คือจับ กด ปั้น เป็นเทคนิคเก่าแล้ว

แต่คุณหมอแทบไม่แตะที่ผิวที่ฉีดเลย เน้นการฉีดให้พอดีกับตรงนั้นมากกว่า

เราฉีดหน้าผากเพื่ออะไร? ขอเขียนแบบเข้าใจง่าย

อันนี้ตอบได้หลายแบบ เป็นเรื่องของความพอใจส่วนตัวด้วย

เรื่องของโหงวเห้งด้วย หรือคนที่มีปัญหาไขมันยุบตัว เนื้อเยื่อหายไป

ใช้เพื่อปรับโครงสร้างของใบหน้า อย่างในเคสของนุ๊ก

บริเวณเหนือคิ้วมันยุบหายไป คือมันแบน ทำให้คิ้วดูโดด ก่อนหน้านี้นุ๊กเข้าใจผิด

คิดว่าฉีดโบทอกไม่ให้คิ้วขยับแล้วมันจะหาย สุดท้ายฟิลเลอร์นั่นแหละที่ช่วยได้

ดูจากรูปก็จะเห็นเลยว่า ดูเต็มขึ้น ดูเป็นธรรมชาติ

kZC1US6

วิธีการฉีด ขอแบบสั้นๆ เพราะนุ๊กก็ถือกระจกดูตลอดเวลา 5555555

แรกสุดคือการทายาชา จริงๆทายาชานี่แทบไม่ช่วยอยู่แล้วเราก็ต้องฉีดยาชาซ้ำอยู่ดี

คุณหมอจะทำการวิเคราะห์หน้าผากของเราว่า ตรงไหนที่ควรเติม

ควรเติมมากน้อยแค่ไหน หลังจากนั้นก็จะเป็นการฉีดยาชา

อันนี้แหละที่หลายคนเกร็ง ยาชาไม่เจ็บนะคะ ฉีดหลายจุดเหมือนกันชิวๆเลย

ฉีดยาชาจากรอบๆด้านบนก่อน จุดสุดท้ายคือแถวๆเหนือคิ้ว เป็นการบล็อกเส้นประสาท

อันนี้จะรู้สึกนิดนึง ว่าเข็มลงไปถึง 55555555 หลังจากนั้นก็ชาไปทั้งหัวชายันตาเลยค่ะ

ต่อไปก็เป็นเทคนิคการฉีดแล้ว อย่างที่บอกว่าใช้ แคนนูลาในการฉีด

ตอนนี้จะไม่รู้สึกแล้ว แต่จะได้ยินเสียงว่า เข็มเลาะเข้าไป ได้ยินทุกอย่างในหัว แต่ไม่เจ็บเลย

ก็จะค่อยๆจิ้มไปค่ะ ไม่อยากอธิบายอันนี้มาก กลัวเพื่อนๆจะเสียว

แต่ขอบอกก่อนเลย ว่าจิ้มเข็มลึกมากกกกกกกกกกกกกกกกตามที่เห็นในคลิปเลย 55555

B6v1LVZ

หลังฉีดทันที

ราคา : นุ๊กฉีด 3 c.c. ราคา 25,000 บาท เรียกว่าไม่แพงเลย

แถมหมอดาวทำเก่งสุดๆ เห็นการทำแล้วยอมใจ ใช้แรงเยอะมาก

หลังจากฉีดหน้าผากเสร็จ ไหนๆเจ็บแล้วขอเจ็บทีเดียว โยกมาฉีดถุงใต้ตาไปเลย

K7OliIp

(ก่อน-หลังฉีด)

ลงมาที่ถุงใต้ตาจะใช้ฟิลเลอร์คนละตัวกัน จะเป็นตัวที่เบากว่า เราก็จะดูก่อนว่าอยากได้เยอะขนาดไหน

แต่คุณหมอจะไม่ทำให้เยอะอยู่แล้ว ไม่พอค่อยเติมเอาดีกว่า

ดอลลี่อายนี่นุ๊กฉีดสดเลย ไม่ฉีดยาชานะคะ ฉีด 3 จุด คือใกล้ๆหัวตา กลางตา หางตา

ฉีดดอลลี่อายนี่ก็ไม่มีการจับปั้นเหมือนกัน คือฉีดให้พอดีจริงๆ

แล้วคุณหมอจะคำนึงถึงตอนยิ้มด้วย คือไม่อยากให้มันโอเว่อร์มาก กลัวตอนยิ้ม

มันจะปูดออกมามากกลายเป็นกบไปอีกก สุดท้ายก็ได้มาปลื้มมากกกก

อยากมีมาตั้งนานแล้ววววว น้ำตาแทบไหล มันสวย มันเกาหลีเลยอะ

ฟิลเลอร์ดอลลี่อายนี้จะอยู่ได้ประมาณ 12-16 เดือนนะคะ หลังจากนั้นก็สลายหายไป

3EzoWNd

ราคา : เนื่องจากคุณหมอน่ารัก มีโปรโมชั่นมาให้เนื่องจากเด็กๆรุ่นนุ๊กที่อยากมี

มีเยอะ คุณหมอเลยคิดราคาโปรโมชั่นให้คือ 3900 บาท (จากปกติ 6000)

คือตอนได้ยินมีงง ยังถามหมอว่ามันถูกไปมั้ยยยยยยย ถูกมากค่า

ถ้าเพื่อนๆใครอยากฉีด บอกว่ามาจากนุ๊ก ได้ลดแน่นอน แถมสวยด้วย

Jrd7rIa

เอาละมาถึงคำถามที่น่าจะต้องตอบบ่อย เอามาตอบเป็นประเด็นดีกว่

  • เจ็บมั้ย? : ไม่เจ็บอย่างที่คิดค่ะ เจ็บจี๊ดๆแค่ตอนยาชา ถ้าถุงใต้ตาไม่เจ็บเลย
  • สลายแน่มั้ย? : แน่นอนค่ะ
  • อันตรายมั้ย? : อยู่ในความดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญค่ะ ไม่อันตราย แต่ถ้าไปฉีดแบบงูๆปลาๆหน่ะอันตราย
  • มีคำแนะนำอะไรมั้ย? : ดื่มน้ำให้เยอะค่ะ ฟิลเลอร์เป็นสารอุ้มน้ำ
  • จะรู้ได้ยังไงว่าคุณหมอฉีดฟิลเลอร์ให้จริงๆไม่ใช่สารอื่น : อยู่ที่จรรญาบรรณของหมอค่ะ คุยกันให้แน่ใจ ให้เชื่อใจ ขอดูกล่องของตัวที่ฉีดก็ยังได้ ถ้ามีโอกาส

ถ้าเพื่อนๆมีคำถามอะไร มาถามนุ๊กได้เลย ไม่กัดค่ะ

ทำที่ไหน จองคิวยังไง?

ทำที่ StarMed Clinic กับคุณหมอดวงดาว

สามารถสอบถามข้อมูล ส่งรูปประเมิน คุยราคา คุยกับหมอทุกอย่างได้ที่เพจ

 Double eyelid club by Dr.Duangdao

รบกวนรอกันนิดนึงนะคะ เพราะลูกค้าสอบถามเยอะเห็นใจคุณหมอด้วยค่ะ

yuTgJoh

สุดท้ายยยยยยย

นุ๊กอยากให้ทุกคน อย่าเพิ่งเชื่อรีวิวจากนุ๊ก

อยากให้ลองหาข้อมูลจากหลายๆส่วน เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียให้มากๆ

ที่สำคัญเลยคือ เลือกฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

ไม่งั้นจะเสียใจไปอีกนาน นุ๊กพูดเลย

นุ๊กไม่ได้สนับสนุนให้เด็กๆ หรือทุกคนไปทำ แค่อยากรีวิวให้เพื่อนๆรู้ถึงเรื่องจริง

วิธีการทำข้อมูลต่างๆ ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆจริงๆ ทำให้ด้วยใจ

เหมือนเราเป็นคนรู้จักเป็นเพื่อนกัน นุ๊กอยากให้ทุกคนได้ของที่ดีที่สุด

อันเก่าที่ทำมานุ๊กว่ามันไม่ดี นุ๊กไม่เคยตอบใครเลยว่าทำที่ไหน

เพราะนุ๊กไม่อยากให้เพื่อนๆไปเสี่ยงเน้อะ เข้าใจกันด้วย

keGg8Nt

Surgery : ทำตา 2 ชั้นแบบแผลเล็กกับหมอดาว ไม่บวม! 3 วันยุบ!

Surgery : ทำตา 2 ชั้นแบบแผลเล็กกับหมอดาว ไม่บวม! 3 วันยุบ!

#ขออัพเดตแค่ 7 วันแรกก่อนนะคะ 1 เดือน 3 เดือน ค่อยขึ้น blog ใหม่กลัวเพื่อนๆจะรอนาน

เห็นคนสนใจเยอะมาก เลยต้องรีบมาให้อ่านก่อน

(เล่าละเอียดมาก อ่านเยอะ รูปเยอะ อ่านก่อนสอบถามนะคะ)


ก่อนอื่นขอบอกนะคะ ทุกสิ่งที่นำมารีวิวในวันนี้เป็นประสบการณ์จริง

เจ็บตัวจริง เย็บจริง เสียเงินค่าทำเองจริง ไม่มีสปอนเซอร์ค่ะ รีวิวด้วยใจล้วนๆ

เกิดจากความประทับใจจริง

ถ้าเข้าใจตรงกันแล้ว เริ่มกันเลยค่ะ ♥

 – ขอแปะคลิปก่อน –

ในคลิปจะถ่ายรายงานความเป็นไปทุกๆวันให้ดูนะคะ

ดูพร้อมอ่านควบคู่กันไปได้เลยค่ะ จะได้ไม่พลาด

(ก่อนทำศัลยกรรม)

B4pzELqQbkqKSf

dJGxEzu

เริ่มต้นเลยนุ๊กเป็นคนตาชั้นเดียว – สองชั้นหลบในแล้วแต่อารมณ์และการบวมของตา

ซึ่งไม่เคยคิดฝันว่าจะได้ทำตาสองชั้นเลยแม้แต่นิดเดียว

เนื่องจากตอนแรกก็พอใจกับตาตัวเองที่มีอยู่แล้ว เพราะตอนนั้นยังติดสติกเกอร์ตา 2 ชั้นไม่เป็น

ทีนี้พอเริ่มมาทำ Howto / Review ต่างๆ ที่เกี่ยวกับความสวยความงาม

ก็ต้องหัดแต่งหน้า ลองติดตาสองชั้นดูบ้าง ปรากฎว่าติดแล้วมันดีงามมากๆ

นุ๊กก็เลยโอเค ติดตาสองชั้นมาตลอด คิดว่าติดมานานเกือบปีแล้ว และพอใจมาก

เพราะมันให้ลุคแบบเกาหลีมากๆ ดูไม่เป็นตาสองชั้นที่ตั้งใจเกินไป

ช่วงที่ติด นุ๊กติดทั้งวันทั้งคืนเลยค่ะ มาราธอนมาก

1XYemRb

(ซ้ายไม่แปะ / ขวาแปะ)

แต่.. ปัญหาก็มาถึง เมื่อมีปัญหาทะเลาะกันกับสติกเกอร์ตาสองชั้น ตรงที่นาง

ไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอย ทำให้มันหลุดดด ตอนที่กำลังเบลนสีตาอยู่ ประกอบกับ

เวลาที่หลับตามันดูไม่เนียน ซึ่งนุ๊กไม่ชอบ ก็เลยเริ่มมองหา ดูๆศัลยกรรมตา 2 ชั้น

แต่ต้องบอกก่อนเลยว่า นุ๊กเป็นชะนีสายโคเรีย แล้วก็แทบจะไม่ค่อยปลื้ม

การทำตาสองชั้นของประเทศเราซักเท่าไหร่ เนื่องจากมันหนา ปูด โปน อย่างมาก

ชั้นตาหนาๆ นุ๊กไม่ชอบ ไม่ได้แต่งตาหนักหน่วงขนาดนั้น มันไม่สวย

ไม่เกา ไม่ธรรมชาติ มันดูลึก ลองดูฝีมือหมอมาก็มาก จะได้ทำก็มี แต่มันก็ไม่ถูกใจ

จนได้มาเจอคุณหมอท่านนึง ชื่อ หมอดวงดาว หรือหมอดาว นุ๊กก็ได้ไปสอบถามราคา

กับทางเพจของเขา Double eyelid club by Dr.Duangdao

Screen Shot 2559-02-28 at 7.55.37 PM

หลังจากสอบถามราคามาคร่าวๆ ได้ความว่าราคาสมเหตุสมผล

คือ 25,000 บาท (ราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้นะคะนุ๊กไม่เฟิร์มทางที่ดีควรถาม)

แล้วคุณหมอทำตาสองชั้นเทคนิคแผลเล็ก(มาก) ซึ่งเหมาะกับนุ๊กมากตรงที่

นุ๊กค่อนข้างทำงานเยอะ ใช้หน้าเยอะ ไม่มีเวลาหายไปหนึ่งหรือสองอาทิตย์

เพื่อรักษาตาที่ทำมา นุ๊กมีเวลาแค่ไม่กี่วันเพื่อให้ตายุบบวม เพราะต้องทำงานต่อ

ก็เลยตัดสินใจเลือกที่นี่ เพราะรีวืวก็พอสมควรว่าไม่บวมเลย

หลังจากตกลงกันเรียบร้อย นุ๊กก็นัดวันเวลาเข้าไปหาคุณหมอที่คลีนิค

คลีนิคชื่อว่า StarMed Clinic อยู่ที่เดอะบิซ ซอยนวลจันทร์ 26-28 กรุงเทพ ค่ะ

พอได้พบคุณหมอ นุ๊กก็บอกความต้องการของเราให้คุณหมอฟังว่า

นุ๊กเป็นคนติดตาสองชั้นอยู่ตลอดเวลา อยากได้ตาสองชั้นเท่าที่เคยติดสติกเกอร์ไว้

ซึ่งมันบางมากๆ อยากได้หัวตาเปิดนิดนึง แต่ไม่อยากเย็บหัวตา แล้วก็อยากให้

ปลายหางตาเค้าสโลบลงมาเป็นหางตาตกๆ ให้ดูเด็ก อ้อนๆ ไม่ชอบหางตาหนายกขึ้น

ขอแบบธรรมชาติที่สุด ขอไม่หนา ขอเกาหลีสุดๆ (เน้นมาก)

คุณหมอก็น่ารักมากค่ะ เอาไม้มาลองจิ้มดูชั้นตาของเรา

ว่าควรจะเย็บตรงไหน การทำตาของคุณหมอ แผลเย็บของแต่ละเคสจะไม่เหมือนกันนะคะ

ซึ่งตรงนี้นุ๊กคิดว่าใส่ใจมาก เราจะได้ตาเป็นแบบของเราเอง ไม่ใช่เหมือน copy แล้ววาง

คุณหมอแนะนำนุ๊กว่า เราจะไม่ฝืนชั้นตาเดิมเพราะฉนั้น ไออาการที่หางตาจะยกสูงขึ้นเนี่ย

ไม่มีเลย ตาจะคล้ายๆของเดิมนี่แหละ แต่จะเป็นสองชั้น มีหัวตาเล็กๆ ที่ธรรมชาติมาก

หลังจากปรึกษาเสร็จ นุ๊กตกลงทำทันที ไม่กลัวเลย เพราะใจอยากทำที่นี่มากอยู่แล้ว

แถมคุณหมอเป็นจักษุแพทย์โดยเฉพาะด้วย นุ๊กเลยมั่นใจมาก แทบอยากทำเดี๋ยวนั้น

ข้ามมาวันที่ทำตา ตอนกลางวันนุ๊กใช้ตาอย่างหนักหน่วงมาก แต่งหน้าจัดเต็ม

แปะตาสองชั้นมาทั้งวัน กลับบ้านมาอาบน้ำ คลีนหน้าให้สะอาด มายืนพิจารณาหน้าตัวเอง

แบบไม่ติดเทป และไม่ใส่คอนแทกเลนส์แล้วก็เอือมตัวเอง

นุ๊กมาถึงคลีนิคประมาณ 3 ทุ่ม เม้ามอยหอยสังข์รอคุณหมอทำเคสอื่นซักพัก

ประมาณ 3 ทุ่มครึ่งพี่ผู้ช่วย(น่ารักมาก555) เอาหมวกคลุมผม

กับที่คาดผมมาให้ ให้ล้างหน้าล้างตาให้สะอาด ในกรณีที่ใครแต่งหน้ามา

พกคลีนซิ่งไปด้วยนะคะ เพื่อความสะอาดของใบหน้าเรา

จากนั้นก็จะทายาชาไว้บนเปลือกตาประมาณ 30 นาทียาชาก็จะดึงๆนิดนึง

หลังจากนั้นเราก็เข้าไปห้องผ่าตัดกันนน

wG1bzoe

ก่อนเข้าห้องผ่าตัดพี่เขาก็จะถ่ายรูป Before ของเราเก็บไว้ก่อน

จากนั้นก็ให้เราเปลี่ยนชุด พาเราขึ้นเขียง

เดินเข้ามาในห้องผ่าตัดนุ๊กก็ชะเง้อมองนู่นมองนี่มองพี่เขาจัดของไปเรื่อย

ได้ความรู้มาพอสมควร อุปกรณ์ที่คุณหมอใช้เพียบเลย ผ่านการฆ่าเชื้อมาอย่างดี

เค้าจะไม่ใช้มือสัมผัสอุปกรณ์เลยเวลาเตรียม เพื่อความสะอาดขั้นสุด

ผ้าก็อต ไม้จิ้ม เบตาดีน ยาม่วง(ไว้จุด) น้ำเกลือ เบลด ไหม อุปกรณ์ทุกอย่าง พี่ผู้ช่วยเป็นคนเตรียมเลย

นุ๊กก็คุยกับเค้านะว่าเจ็บมั้ย เค้าบอกโอ้ยสบาย โบท็อกยังเจ็บกว่า

นุ๊กก็เลยรู้สึกว่ามันต้องชิลมากแน่ๆ เพราะเราก็ผ่านมาเยอะ

ถือคติทำนมผ่านมาแล้ว อะไรก็ไม่กลัวแล้ว  555555555

หลังจากที่เตรียมอุปกรณ์เสร็จ พี่เค้าจะทำการทำความสะอาดฆ่าเชื้อบนหน้าเราอีกรอบ

ด้วยการหยอดยาหยอดตาอะไรซักอย่าง เข้าไปในตาของเรา (พอดีนุ๊กไม่ได้ถามว่าอะไร)

จุดนี้จะแสบเบาๆ หยอดเพื่อไม่ให้แสบตา เวลาที่เบตาดีนเข้าไปในตาของเราค่ะ

จากนั้นก็จะทาเบตาดีนให้ทั่วหน้าผาก ตา แก้มของเรา หน้าก็จะเหลืองๆ เก๋ดี

พร้อมเปิดเพลงของพี่เบิร์ดจากไอโฟนแล้วก็เดินออกไป.. ชิลไปไหนตอบบบ

จากนั้นคุณหมอมาแล้ว ทีนี้เราก็จะได้ย้ำกับคุณหมออีกรอบค่ะ ว่าเราต้องการตาแบบไหน

แนะนำให้ปรึกษาและบอกคุณหมอให้หมด ไม่ต้องกั๊ก เอาที่เราถูกใจตัวเอง

นุ๊กจัดการบอกเรียบร้อย แถมตามีรอยสติกเกอร์มาเป็น Guide line อยู่แล้ว

ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ คุณหมอทำงานง่ายเลยทีนี้ คุณหมอจะใช้เวลาในการวัดชั้นตาของเรา

นานมากพอสมควรเลย ให้หลับตา ลืมตาอยู่ตลอด เพื่อเช็คชั้นตา จากนั้นจะเอาไม้จิ้ม

มาจิ้มยาม่วงแล้วก็ทำการ mark ลงไปบนเปลือกตาค่ะ หลังจากนั้น นาทีระทึกก็มาละค่ะ

คุณหมอจะฉีดยาชาลงไปที่เปลือกตาบริเวณที่จะกรีด

ขอพูดด้วยความสัจจริงเลยนะ ว่าไม่เจ็บเลย หมอมือเบามากค่ะ เจ็บน้อยกว่าฉีดโบท็อกเยอะมาก

ไม่ต้องกลัวว่าจะเจ็บเลย เพราะไม่เจ็บจริงๆ รอแปปนึงยาชาออกฤทธิ์

คุณหมอก็เริ่มกรีดค่ะ แผลของนุ๊กยาวประมาณ 3 มิลลิเมตรแค่นั้น

คุณหมอจะทำการหากล้ามเนื้อตาเรา จากนั้นก็เย็บ (เรื่องการผ่าตัดนุ๊กไม่สันทัดขอไม่พูดเยอะกลัวผิด)

มีตอนนึงรู้สึกจะเหมือนเอาเลเซอร์มาทำไรซักอย่าง

กลิ่นเหมือนปลาหมึกปิ้งเลย 55555555555

รู้แค่เม้ากับหมอนานมาก ทำไปคุยไป คุยสัพเพเหระ คุยไปคุยมาเสร็จไปข้างนึง

คุณหมอจะให้ลืมตา หลับตา มองนิ้วหมอตลอดเวลาเพื่อเช็คชั้นตา

อ๋อ ถ้าใครกลัวเจ็บตอนทำนะคะ ขอบอกว่าไม่รู้สึกอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว

ลืมตาได้ปกติ เม้ามอยปกติ ไม่เจ็บ แทบไม่รู้ว่าทำอยู่เลย จากนั้นก็ย้ายมาทำอีกข้างนึง

ข้างขวานี่ก็ทำเหมือนเดิมเลยค่ะ คุณหมอปราณีตแล้วก็ใช้เวลานานมาก

ค่อยๆทำ ค่อยๆดู คุณหมอบอกว่า แผลนุ๊กเล็กมากจริงๆ ไม่เคยกรีดเล็กขนาดนี้มาก่อน

ธรรมชาติมาก เกาหลีมาก (จุดนั้นแทบลอยไปแล้ว อยากเห็นไวๆ)

ทำเสร็จทั้งสองข้างคุณหมอก็จะเย็บปิดแผลค่ะ ตอนเย็บปิดแผลแอบรู้สึกเบาๆ

ไม่ได้เจ็บนะ แต่รู้ว่าเย็บอยู่ เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ขอกระจกมาดูอย่างไว

จุดนี้หน้าสดก็โนสน เพราะว่าตาสวยมากกกกกกกกกกกกกกกกก

สวยแบบไม่โกหกตัวเองเลย มันเป็นแบบที่ชอบจริงๆ

8n4zg8xt0c2Bys

(แอบไม่เท่ากันนิดนึงพอดีข้างขวาของนุ๊กมีปัญหานิดหน่อย 555)

fQLCdmC

(ก่อนและหลังทำ ทันที)

ทำเสร็จประมาณ 5 ทุ่ม ชั้นตานุ๊กสวยมากธรรมชาติ เกาหลีไปอีก

เหมือนติดเทปเลย แต่สวยมาก ไม่มีแดง ไม่มีรอย ไม่ช้ำ ไม่ปูด ไม่เขียว ไม่ม่วง

นุ๊กเลยถามคุณหมอว่า มันจะบวมวันไหนหรอคะ คุณหมอบอกประมาณวันที่ 2-3

ก็อยากรู้เหมือนกันว่าจะบวมขนาดไหน ปูดมั้ยยย ต้องไปเรียนนะ

หลังจากถ่ายรูป After เสร็จ ก็ลงมาข้างล่างมารับยากันค่ะ

ยาที่ได้จะมียาพารา ไอบูแก้ปวด ยาแก้อักเสบ(ต้องทาให้หมด)

ที่ประคบเย็น ผ้าก็อต คัตตอลบัต น้ำเกลือ เบตาดีน

คือพูดเลยว่านุ๊กงงมากไม่เคยไปทำอะไรแล้วคลีนิคเตรียมพร้อมไว้ให้ขนาดนี้

ใส่ใจมากจริงๆ ได้อย่างมากก็แค่ยาพารา ปลื้มมากค่ะ

คืนนั้น เนื่องจากแฟนรอจนหลับ ขับรถกลับบ้านเองได้เลยค่ะ

ไม่เจ็บไม่ปวด สบายมากไม่ตึงหรืออะไรเลย คืนนั้นนุ๊กกลับมาก็ประคบเย็น

oY5RTp0

(เจลแปะตาอันใหญ่มีคนส่งมาให้พอดี)

วันแรก นอนอีกทีก็ตี 2 ตื่น ตี 5 ก็คิดในใจแหละ นอนน้อยแบบนี้บวมแน่ไม่รอด

แต่.. ตาก็ไม่บวม.. ขึ้นเครื่องบินกลับมาเรียนตอนเช้าก็ไม่บวม

มาถึงมหาลัยนุ๊กรีบถ่ายรูปอัพเดตไว้ก่อนเลย

bFt6jYxsuFIqwq

วันที่ 2 วันที่คิดว่ามันต้องบวมสุดพลังแน่ๆ แต่.. มันไม่บวมแถมยังยุบบวมอีก

มีรอยแดงๆนิดหน่อย คล้ำๆนิดนึง วันที่สองนี่นุ๊กว่าบวมที่สุดละ คือมีแดงบ้าง แต่ไม่เจ็บ

แถมกินมะม่วงกะปิแบบอร่อยลืม

EAqoV0n9rZEFclDs0uUav

วันที่ 3 ยุบลงอีกค่ะ สรุปคือ นุ๊กไม่มีอาการบวมเลย ชั้นตาสวยมาก

ถ้าไม่กระพิบตาหรือหลับตา ไม่รู้เลยค่ะว่าทำมา เพื่อนๆชมทุกคน

วันนี้นุ๊กเริ่มแต่งตาเบาๆแล้วเพราะทนไม่ไหว อยากแต่งหน้า

8qedddBiRc5XEF

วันที่ 4 เช้านี้ก็แทบเป็นตาปกติแล้ว ข้างขวายังมีม่วงๆอยู่แต่ไม่ไม่มีปวดหรือเจ็บแล้ว

แผลมันแห้งแล้วด้วย

qRNdOoXpcYlBmm

ตอนเย็นๆนุ๊กก็เลยเดินทางไปตัดไหมมา แผลเล็กมากเรียบร้อยดี

แห้งสนิทค่า สดๆร้อนๆออกมาจากโรงบาล

qxWjZut

วันที่ 5 ทุกอย่างกลับสู่สภาวะปกติ หลังจากตัดไหม

นุ๊กก็เลยจัดการล้างหน้าด้วยสบู่แบบเต็มสตรีมจากนั้นก็ซับหน้าทาครีมค่ะ

เช็ดสะเก็ดแผลออกให้หมด ผลก็เป็นอย่างที่เห็น

sGXpHGspZ2ZCSTJhB9gs4

แอบมีตาลอกนิดนึงเนื่องจากเป็นคนหน้าแห้งขั้นเทพ

ไม่ได้ทาครีมที่ตามาแค่ 4 วัน ตาก็แห้งจนลอกได้แล้ว TTwTT

วันที่ 6 เรื่องชั้นตานี่ไม่ต้องพูดถึงละ เนียนสนิท

วันนี้นุ๊กรู้สึกว่า หลับตาปี๋ๆ ไม่เจ็บแล้ว (แต่อย่าทำแรง) 5555

ตอนนี้นุ๊กก็ยังไม่ได้ขยี้ตาหรืออะไรน้า รู้สึกว่าตาไม่ต้องใส่คอนแทกเลนส์

ก็สามารถอยู่ได้แบบโอเคคคคค วันนี้นุ๊กไม่ค่อยได้ถ่ายรูปไปเรียนมาหมดพลัง

ouYiHq7

UQBwNZjJkSMUJN

วันที่ 7  เป็นแบบนี้ค่า เลิฟฟฟฟมาก

hFh6pIghLmd827IdtxH6K

วิธีการล้างแผล

ใช้คัตตอลบัตเทน้ำเกลือลงไป 1 ด้าน เช็ดบริเวณแผลเบาๆ จากนั้นทาเบตาดีนลงไป

ช่วงอาทิตย์แรกนุ๊กพยายามไม่ล้างหน้าให้โดนตา ไม่อยากให้แผลสกปรก

แต่ก็สระผมตามปกติ ใช้สกิลนิดนึง

วิธีประคบเย็น

แช่เจลประคบเย็นให้เย็น (เอ้าแน่สิแก) หรือแช่ให้แข็งไปเลย

เอาออกมาเอาผ้าก็อตรองนิดนึงแล้วมาประคบ นุ๊กประคบทุกเวลาที่ว่าง

ของกินการใช้ชีวิต

นุ๊กก็ทานทุกอย่างที่ขวางหน้า กะปิ ส้มตำ ไก่ ไข่เจียว ปลา

ทุกอย่างที่อยากกิน

คำถามที่น่าจะพบบ่อยขอตอบเป็นข้อๆไปเลยละกันเน้อะ

(อยากจะช่วยแบ่งเบาภาระให้กับทางคลีนิค 555555 เห็นใจค่ะ)


  • เจ็บมั้ย เอาจริงๆ ขอแบบไม่โกหก : ไม่เจ็บค่ะ ไม่เจ็บเลย ไม่รู้สึกเลย วันที่สองสามมีปวดบ้างแต่น้อยมาก
  • ทำนานมั้ย : ประมาณชั่วโมงนึงค่ะ
  • ต้องจองคิวทำมั้ย : ต้องจองค่ะ คุณหมอคิวค่อนข้างแน่น แถมหมอสวยยยย
  • ทำไมตาไม่บวมเลย : เพราะคุณหมอมือเบามากจริงๆ เลยไม่บวมเลย เก่งมากๆค่ะ
  • ถ้าเกิดทำที่อื่นมาอยากแก้แก้ได้มั้ย : คุณหมอดาวแก้ให้ได้ มีค่าแก้นะคะ รบกวนสอบถามที่คลีนิคเอง
  • ราคาที่ทำนี่รวมตัดไขมันชั้นตา เปิดหัวตามั้ย : รวมนะคะ ไม่บวกเพิ่ม ค่ายาก็ไม่คิด
  • ทำแบบนี้มีโอกาสชั้นตาหลุดมั้ย : จริงๆแล้วมีโอกาสทั้งนั้น แต่หมอเย็บแน่นมากคอนเฟิร์มว่าไม่หลุด
  • ไหมเย็บต้องตัดมั้ย : ตัดค่า นุ๊กเย็บแค่อันเดียวเล็กลืม (แล้วแต่คน)
  • ทำแล้ววันรุ่งขึ้นไปเรียน/ทำงานได้มั้ย : ได้ 1,000,000,000,000% ค่ะ
  • ทำไมคลีนิคตอบ Inbox ช้า/โทรไม่ติด : รบกวนรอนะคะ เพราะข้อความน่าจะเยอะมากเห็นใจคลีนิคนิดนึง
  • คลีนิคอยู่ไหน : อยู่แถวเกษตรนวมินทร์ค่ะ แถวๆซอยนวลจันทร์ 26-28 กรุงเทพ
  • ตาเป็นแบบนี้ จะทำแบบที่ต้องการได้รึเปล่า : ต้องปรึกษาคุณหมอเป็นเคสๆนะคะ แต่ละคนมีข้อจำกัดของตัวเอง

 

ขอบอกก่อนเลยว่าการทำศัลยกรรมเป็นผลลัพธ์เฉพาะบุคคลมากๆ

และเป็นความพอใจส่วนบุคคลของเรา ไม่ใช่ของใคร

อยากทำทำ พอใจจะทำก็ทำ

บางทีเราอาจจะทำทรงนี้สวย แต่ทำอีกทรงไม่สวย ขอให้เลือกให้เข้ากับใบหน้าเรา

อย่าทำให้มันฝืนธรรมชาติค่ะ อย่าเปลี่ยนตัวเองจนคนอื่นจำเราไม่ได้

อยากทำแบบไหนมันมีลิมิตของมันค่ะ เราต้องสวยในแบบของเราเน้อะ

ส่วนตัวนุ๊กพอใจกับผลของมันมากจริงๆ เสียเงินแค่หลักหมื่น

ไม่เจ็บตัว ไม่ต้องบินไปไกลถึงเกาหลี ก็มีตาแบบที่ฝันได้

รักคุณหมอดาวมากจริงๆ ขอบคุณมากค่ะ 

ไว้ผ่านไป 1 เดือน หรือ 3 เดือนนุ๊กจะมาอัพเดตให้ดูนะคะ เพราะตอนนี้เห่อมาก

บ๊ายบาย