Surgery: ฉีด Filler หน้าผากและถุงใต้ตา (Dolly eye)

Surgery: ฉีด Filler หน้าผากและถุงใต้ตา (Dolly eye)


รีวิวนี้เป็นความเห็นและข้อมูลส่วนบุคคล เป็นรีวิวที่ได้ทำจริง เสียเงินจริงกรุณางดแอบอ้าง

การนำรูปไปใช้ ขอสงวนสิทธิ์ในรูปและบทความค่ะ

ท่ามมมมมท๊ามมมม เชื่อค่ะว่าหลายคนรอ blog นี้มาแบบตื่นเต้น

เกริ่นก่อนเลยเหมือนที่ได้พูดไปในคลิปว่า มีประสบการณ์ไม่ดี เกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์

ขออนุญาติเอาภาพเก่ามาให้ดู เนื่องจากฉีดคางครั้งแรก มันบวมช้ำมากกก

12166222_422203931311879_1715899597_n

ทำให้นุ๊กรู้สึกกลัวการฟิลเลอร์ไปเลย แต่ก็ยังคงวอแวกับการฉีดหน้าผากอยู่

เพราะนุ๊กหน้าผากแบน แล้วอยากหัวนูนมาก คืออยากหน้าผากสวยอะไรแบบนี้

แต่พอมันต้องฟิลเลอร์ก็เลยเปลี่ยนใจ พับเก็บโครงการไปก่อน

ทีนี้ ก่อนหน้านี้นุ๊กได้มีโอกาสทำตาสองชั้นที่ StarMed Clinic กับคุณหมอดาว

ตามที่เราได้เขียน blog ไปก่อนหน้านี้

ดูรีวิวทำตาที่นี่ 

EAqoV0n

(ก่อนทำเหนือคิ้วแบน หน้าผากแบน)

แล้วนุ๊กก็ปรึกษาคุณหมอหลายเรื่อง เพราะคุณหมอรับฉีดฟิลเลอร์ โบท็อก เมโสแฟตด้วย

พอได้ยินนุ๊กก็ตาวาวอยากทำมากๆ ทั้งหน้าผาก แล้วก็ดอลลี่อาย

ตัดสินใจอยู่นานมาก นุ๊กเลือกระหว่างการฉีดฟิลเลอร์ กับการฉีดไขมันตัวเอง

มันมีข้อดีข้อเสียต่างกันอยู่ อย่างฟิลเลอร์มันต้องแอบกลัวบ้าง ว่าจะไหลมั้ยหรือยังไง

แต่ไขมันเนี่ย ยังไงก็ดูปลอดภัยกว่า แต่การยุบตัวของไขมันเนี่ยเค้าจะเป็นคลื่น

ซึ่งฟิลเลอร์ไม่เป็น อีกอย่างคือการฉีดไขมันเนี่ยเราไม่สามารถคาดการณ์ว่า

มันจะยุบตัวเยอะขนาดไหน บวกกับการเติม ฟิลเลอร์เติมได้สะดวก

ส่วนไขมันเนี่ยต้องดูดที่ใหม่ เพราะที่เดิมจะเกิดพังผืดแล้ว ใช้ไขมันบริเวณนั้นไม่ได้อีก

นี่คือข้อมูลคร่าวๆที่นุ๊กปรึกษาหลายคน รวมถึงคุณหมอด้วย

ทุกคนก็จะพยายามเบรค แบบว่าคิดดีๆน้า ฟิลเลอร์ก็กลัว ไขมันก็ไม่กล้า

kETi9mUg

ฟิลเลอร์ยี่ห้อต่างๆ

T4VoSDN

แต่ความสวยมันต้องมาก่อน เลยตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์

สำหรับ Filler หน้าผาก ที่คุณหมอดาวเลือกใช้เป็นของ Perfectha รุ่น Subskin

เป็นฟิลเลอร์สำหรับหน้าผากโดยเฉพาะ ของประเทศฝรั่งเศส

ในประเทศเรามี Filler ที่ผ่านอย.อยู่หลายตัว แต่ละตัวก็จะใช้ต่างๆกันไป

ตามส่วนที่ฉีด ไม่ใช่ว่าตัวเดียวฉีดทุกที่อะราวเดอะเวิล์ดไม่ใช่นะ 555555

ความยากของการฉีดหน้าผาก คือ เป็นจุดที่มีเส้นประสาทเยอะมาก ทั้งเส้นประสาทตา เส้นเลือดต่างๆ

หากทำโดยแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ มีโอกาสโดนเส้นประสาท ตาบอดได้ ตามที่เราเห็นข่าว

พอรู้แบบนี้แล้ว คงเดาได้ว่าทำไมนุ๊กถึงฉีดกับหมอดาว เพราะหมอดาวเป็นหมอตาค่ะ

ชำนาญมาก รวมถึงคุณหมอเป็นวิทยากรในการฉีดฟิลเลอร์ ร้อยไหมด้วย

เรียกว่าตัวแม่นั้นแหละ 5555555555 พูดถึงฟิลเลอร์ต่อ

1 กล่อง มีด้วยกันทั้งหมด 3 c.c. จำนวนการใช้ก็ขึ้นอยู่กับโครงหน้าของเรา แล้วก็

การวิเคราะห์ของคุณหมอ ที่นี่จะเน้นธรรมชาติ เข้ากับรูปหน้า

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก คุณหมอจะใช้เข็มเฉพาะที่เรียนว่า เข็มแคนนูลา

เป็นเข็มปลายทู่เนื่องจากต้องใช้ความลึกในการฉีด (ลึกมาก) เจ้าตัวเข็มปลายทู่

มีข้อดีคือ ไม่เจ็บมาก ลดปัญหาการฉีดโดนเส้นเลือด และต้องฉีดในชั้นที่ลึกพอ

ระยะเวลาของ Filler ตัวนี้อยู่ได้ประมาณ 18-24 เดือน โดยจะค่อยๆสลายตัว

และสลายตัว 100% ไม่บวม ไม่ช้ำ ไม่เขียว ไม่ต้องพักฟื้นและสามารถฉีดเติม และฉีดสลายได้ หากต้องการ

ซึ่งทางหมอดาวเลือกใช้ตัวนี้เพราะนิ่ม ไม่เป็นไตหรือก้อนแข็งด้วย

ก็จะดูธรรมชาติมากๆ และผ่านอย.แน่นอน

นุ๊กขอบอกก่อนเลยว่าคุณหมอโปรมากกกกก ลองดูในคลิปดู

คุณหมอบอกว่า บางที่ ใช้การปั้นฟิลเลอร์เอา คือจับ กด ปั้น เป็นเทคนิคเก่าแล้ว

แต่คุณหมอแทบไม่แตะที่ผิวที่ฉีดเลย เน้นการฉีดให้พอดีกับตรงนั้นมากกว่า

เราฉีดหน้าผากเพื่ออะไร? ขอเขียนแบบเข้าใจง่าย

อันนี้ตอบได้หลายแบบ เป็นเรื่องของความพอใจส่วนตัวด้วย

เรื่องของโหงวเห้งด้วย หรือคนที่มีปัญหาไขมันยุบตัว เนื้อเยื่อหายไป

ใช้เพื่อปรับโครงสร้างของใบหน้า อย่างในเคสของนุ๊ก

บริเวณเหนือคิ้วมันยุบหายไป คือมันแบน ทำให้คิ้วดูโดด ก่อนหน้านี้นุ๊กเข้าใจผิด

คิดว่าฉีดโบทอกไม่ให้คิ้วขยับแล้วมันจะหาย สุดท้ายฟิลเลอร์นั่นแหละที่ช่วยได้

ดูจากรูปก็จะเห็นเลยว่า ดูเต็มขึ้น ดูเป็นธรรมชาติ

kZC1US6

วิธีการฉีด ขอแบบสั้นๆ เพราะนุ๊กก็ถือกระจกดูตลอดเวลา 5555555

แรกสุดคือการทายาชา จริงๆทายาชานี่แทบไม่ช่วยอยู่แล้วเราก็ต้องฉีดยาชาซ้ำอยู่ดี

คุณหมอจะทำการวิเคราะห์หน้าผากของเราว่า ตรงไหนที่ควรเติม

ควรเติมมากน้อยแค่ไหน หลังจากนั้นก็จะเป็นการฉีดยาชา

อันนี้แหละที่หลายคนเกร็ง ยาชาไม่เจ็บนะคะ ฉีดหลายจุดเหมือนกันชิวๆเลย

ฉีดยาชาจากรอบๆด้านบนก่อน จุดสุดท้ายคือแถวๆเหนือคิ้ว เป็นการบล็อกเส้นประสาท

อันนี้จะรู้สึกนิดนึง ว่าเข็มลงไปถึง 55555555 หลังจากนั้นก็ชาไปทั้งหัวชายันตาเลยค่ะ

ต่อไปก็เป็นเทคนิคการฉีดแล้ว อย่างที่บอกว่าใช้ แคนนูลาในการฉีด

ตอนนี้จะไม่รู้สึกแล้ว แต่จะได้ยินเสียงว่า เข็มเลาะเข้าไป ได้ยินทุกอย่างในหัว แต่ไม่เจ็บเลย

ก็จะค่อยๆจิ้มไปค่ะ ไม่อยากอธิบายอันนี้มาก กลัวเพื่อนๆจะเสียว

แต่ขอบอกก่อนเลย ว่าจิ้มเข็มลึกมากกกกกกกกกกกกกกกกตามที่เห็นในคลิปเลย 55555

B6v1LVZ

หลังฉีดทันที

ราคา : นุ๊กฉีด 3 c.c. ราคา 25,000 บาท เรียกว่าไม่แพงเลย

แถมหมอดาวทำเก่งสุดๆ เห็นการทำแล้วยอมใจ ใช้แรงเยอะมาก

หลังจากฉีดหน้าผากเสร็จ ไหนๆเจ็บแล้วขอเจ็บทีเดียว โยกมาฉีดถุงใต้ตาไปเลย

K7OliIp

(ก่อน-หลังฉีด)

ลงมาที่ถุงใต้ตาจะใช้ฟิลเลอร์คนละตัวกัน จะเป็นตัวที่เบากว่า เราก็จะดูก่อนว่าอยากได้เยอะขนาดไหน

แต่คุณหมอจะไม่ทำให้เยอะอยู่แล้ว ไม่พอค่อยเติมเอาดีกว่า

ดอลลี่อายนี่นุ๊กฉีดสดเลย ไม่ฉีดยาชานะคะ ฉีด 3 จุด คือใกล้ๆหัวตา กลางตา หางตา

ฉีดดอลลี่อายนี่ก็ไม่มีการจับปั้นเหมือนกัน คือฉีดให้พอดีจริงๆ

แล้วคุณหมอจะคำนึงถึงตอนยิ้มด้วย คือไม่อยากให้มันโอเว่อร์มาก กลัวตอนยิ้ม

มันจะปูดออกมามากกลายเป็นกบไปอีกก สุดท้ายก็ได้มาปลื้มมากกกก

อยากมีมาตั้งนานแล้ววววว น้ำตาแทบไหล มันสวย มันเกาหลีเลยอะ

ฟิลเลอร์ดอลลี่อายนี้จะอยู่ได้ประมาณ 12-16 เดือนนะคะ หลังจากนั้นก็สลายหายไป

3EzoWNd

ราคา : เนื่องจากคุณหมอน่ารัก มีโปรโมชั่นมาให้เนื่องจากเด็กๆรุ่นนุ๊กที่อยากมี

มีเยอะ คุณหมอเลยคิดราคาโปรโมชั่นให้คือ 3900 บาท (จากปกติ 6000)

คือตอนได้ยินมีงง ยังถามหมอว่ามันถูกไปมั้ยยยยยยย ถูกมากค่า

ถ้าเพื่อนๆใครอยากฉีด บอกว่ามาจากนุ๊ก ได้ลดแน่นอน แถมสวยด้วย

Jrd7rIa

เอาละมาถึงคำถามที่น่าจะต้องตอบบ่อย เอามาตอบเป็นประเด็นดีกว่

  • เจ็บมั้ย? : ไม่เจ็บอย่างที่คิดค่ะ เจ็บจี๊ดๆแค่ตอนยาชา ถ้าถุงใต้ตาไม่เจ็บเลย
  • สลายแน่มั้ย? : แน่นอนค่ะ
  • อันตรายมั้ย? : อยู่ในความดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญค่ะ ไม่อันตราย แต่ถ้าไปฉีดแบบงูๆปลาๆหน่ะอันตราย
  • มีคำแนะนำอะไรมั้ย? : ดื่มน้ำให้เยอะค่ะ ฟิลเลอร์เป็นสารอุ้มน้ำ
  • จะรู้ได้ยังไงว่าคุณหมอฉีดฟิลเลอร์ให้จริงๆไม่ใช่สารอื่น : อยู่ที่จรรญาบรรณของหมอค่ะ คุยกันให้แน่ใจ ให้เชื่อใจ ขอดูกล่องของตัวที่ฉีดก็ยังได้ ถ้ามีโอกาส

ถ้าเพื่อนๆมีคำถามอะไร มาถามนุ๊กได้เลย ไม่กัดค่ะ

ทำที่ไหน จองคิวยังไง?

ทำที่ StarMed Clinic กับคุณหมอดวงดาว

สามารถสอบถามข้อมูล ส่งรูปประเมิน คุยราคา คุยกับหมอทุกอย่างได้ที่เพจ

 Double eyelid club by Dr.Duangdao

รบกวนรอกันนิดนึงนะคะ เพราะลูกค้าสอบถามเยอะเห็นใจคุณหมอด้วยค่ะ

yuTgJoh

สุดท้ายยยยยยย

นุ๊กอยากให้ทุกคน อย่าเพิ่งเชื่อรีวิวจากนุ๊ก

อยากให้ลองหาข้อมูลจากหลายๆส่วน เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียให้มากๆ

ที่สำคัญเลยคือ เลือกฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

ไม่งั้นจะเสียใจไปอีกนาน นุ๊กพูดเลย

นุ๊กไม่ได้สนับสนุนให้เด็กๆ หรือทุกคนไปทำ แค่อยากรีวิวให้เพื่อนๆรู้ถึงเรื่องจริง

วิธีการทำข้อมูลต่างๆ ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆจริงๆ ทำให้ด้วยใจ

เหมือนเราเป็นคนรู้จักเป็นเพื่อนกัน นุ๊กอยากให้ทุกคนได้ของที่ดีที่สุด

อันเก่าที่ทำมานุ๊กว่ามันไม่ดี นุ๊กไม่เคยตอบใครเลยว่าทำที่ไหน

เพราะนุ๊กไม่อยากให้เพื่อนๆไปเสี่ยงเน้อะ เข้าใจกันด้วย

keGg8Nt

Review : ฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ เมโสแฟต

คำเตือน รูปเยอะ และ เนื้อหาในบทความนี้ เป็นข้อคิดเห็นและความเข้าใจส่วนบุคคล 
เขียนตามประสบการณ์จริงและตามความเข้าใจที่ได้ศึกษามา
หากคิดเห็นไม่ตรงกับท่านอื่นหรือบทความใด ก็โปรดใช้วิจาณญาณ ขอบคุณค่ะ

โอวเย้ บทความนี้ เราจะเพิ่มสาระกันเข้ามา และขอมีสไตล์การขียนที่

ค่อนข้างไร้สาระ และเผ็ดมันนิดหน่อย จะไม่วิชาการมาก เพราะไม่เชี่ยวชาญ แค่อยากแบ่งปันประสบการณ์ค่ะ


Review : ฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ เมโสแฟต


เห้ยแก เชื่อเหอะว่าผู้หญิงหลายคนประสบปัญหา หน้าบาน หน้าบานคืออะไร? ทำไมต้องหน้าบาน?

เนื่องจากเราเด็กๆ เกิดมาด้วยการเคี้ยวเนื้อเหนียว เคี้ยวหมากฝรั่ง

หรืออ้วน หรือไม่อ้วนแต่ไขมัน ก้อนเนื้อที่หน้ามันมาก

ก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่แต่แต่ แต่พอเราโตขึ้นมา จนอายุระดับนึง ผู้หญิงทุกคนแหละ มันต้องวอรี่บ้าง

ว่าหน้าบานทำไงดี? บางคนไม่ซี เออช่างเขา แต่เราซี!!

ชะนีหน้าแหลมเป็นจิ้งจกแบบเราก็เป็นคนวิกลจริตคนนึงที่คิดว่า บานอะ

ทั้งที่จริงๆมันก็ไม่ได้บานอะไรขนาดนั้นหรอกมั้งแกก็รู้ 555555

เลยได้ทำการ หาข้อมูล จริงๆก็ชอบตามคนสวยๆนะ พริตตงพริตตี้ บล็อกเกอร์ เลยได้รู้จัก

โบท็อกซ์ หรือโบทูลินั่ม ท็อกซิน แงะ ชื่อน่ากลัว

โบท็อกซ์เนี่ยคือถ้าพูดกันแบบหมอๆวิทยาศาสตร์ก็คือ

โปรตีน ที่สกัดจากแบคทีเรียชนิดหนึ่ง แล้วไง แล้วรู้ไปทำไม? 55555555555

เอาเป็นว่า ถ้าอยากให้เข้าใจง่ายๆ คือ โบท็อกซ์ฉีดไปเพื่อไปคลายกล้ามเนื้อส่วนนึง

พอมันคลายปุ๊ป ริ้วรอย ตีนกา รูขุมขนแม้แต่บริเวณช่วงกรามของเราก็จะลดลง

(นี่คือความเข้าใจคร่าวๆส่วนบุคคล ถ้าอยากเป๊ะๆ กูเกิ้ลเลยจ้า)

จุ๊กกุ๊แร้ก็สามารถฉีดลดเหงื่อได้ ขาน่องปูดก็ฉีดได้ เรียกว่าอะไรที่เป็นกล้ามเนื้อ ฉีดหมดด

จากประสบการณ์ โบท็อกซ์ อยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน อยู่ที่การรักษามันเช่น ไม่กินแอลกอฮอล์ ไม่สูบบุหรี่บลาๆ

โบท็อกซ์ที่เคยฉีดมา มี 2 อย่าง คือ ของอเมกา กับของเกาหลี รู้สึกว่าต่างกันนะ

โบท็อกซ์อเมกาที่เคยฉีด น่าจะยี่ห้ออัลลิแกน อยู่ได้นานพอสมควรนะ

สำหรับเราอยู่ได้ประมาณ 7 เดือนแล้วมันก็จะค่อยๆคลายไปตามกาลเวลา

ของเกาหลี น่าจะยี่ห้อ Neuronox อยู่แปปเดียวเองอะ ประมาณ 3-4 เดือน เศร้าใจ

แต่ราคามันก็ห่างกันครึ่งๆแหละที่ฉีดมา

อันนี้รูปตอนฉีดของโคเรียยย รูปตอนเมกาหายไปละ

12166203_422205551311717_598778890_n

ถ้าทั่วๆไปโบท็อกซ์ก่อนฉีดก็จะให้ประคบเจลเย็นตามรูปแหละ ก็มันตึงๆชาๆก็จะเริ่มฉีด

ปกติเราเป็นคนที่ฉีดแต่ช่วงกรามนะ เวลาหาว หัวเราะ พูดคุยก็รู้สึกปกติ

ล่าสุดค่ะ 5555555555555 ล่าสุดคือ ฉีดหน้าผาก (เรื่องรอยย่น) กับตรงกรอบหน้า

คือรอบนี้ไม่ฉีดกรามไง ตอนนี้ผ่านมา 1 อาทิตย์ โอย หน้าตึง 555555555

จะอ้าปากกินข้าว พูด นี่ตึงงงงงงงงงงงงงมากกกกกกกกกกกกกกกกกก

ยิ้มก็ตึงมาก หัวเราะก็ตึง เคี้ยวข้าวยังเมื่อย ตึงขนาดเห้ย

ก็คงต้องให้เวลากันหน่อย 555555 ฉีดช่วงกรอบหน้าก็จะเน้นให้หน้าเป็นรูปชัดขึ้น เวลาถ่ายรูป

ส่วนหน้าผากนี่ เลิกคิ้วขึ้นแทบไม่ได้ค่ะ ตึงจริงไรจริงมาก ตอนฉีดหน้าผากนี่เจ็บมากก

เจ็บแบบจี๊ดเลย โอย ตะลึงตึงงัน แสบจนงง 555555555

ทีนี้โปรโมชั่นของคลีนิคที่ไปฉีดมา (ขอไม่เอ่ยชื่อละกันเค้าไม่ได้จ้าง 555 ปล.แต่จ้างได้นะคะ)

ฉีดโบท็อก + เมโสแฟต + ฟิลเลอร์ ในราคาที่พอรับได้ก็เลยรวบมาทีเดียว

บอกตรงๆว่าหาข้อมูลค่อนข้างนานนะ เพราะค่อนข้างกลัวอย่างอื่นที่ไม่ใช่โบท็อกซ์

เนื่องจากเป็นคนแพ้ง่าย ยิ่งฟิลเลอร์นี่กลัวม๊ากกกกกกกกกกกกกก

นี่คือหน้าที่ไม่ได้ฉีดอะไร

12167724_422204271311845_37049971_n

เอารูปก่อนทำไปดูก่อน นี่คือแปะยาชา ออกไปกินข้าวรอยาชามันชา

แปะยาชาก็ประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมงค่ะ

12053275_422204261311846_254360006_n 12166803_422204257978513_1588191542_n

เอาทีละอันก่อน

เมโสแฟต เมโสแฟตมันก็คือการฉีดสลายไขมัน (เข้าใจกันแบบบ้านๆพอละกันนะ)

ตรงไหนที่มีไขมันเราสามารถฉีดสลายได้ เช่น แก้ม เหนียง ท้องแขน อะไรแบบนี้

แต่ถ้าถามว่าฉีดสลายแล้วไขมันจะกลับมามั้ย ตามกลไกของร่างกาย หากท่านรับประทานไขมันเยอะ!

มันก็กลับมาอยู่ดีอะแหละ (เราคิดแบบนี้) ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยได้ฉีดหรอก เพราะชอบแก้มอยู่แล้ว

เหนียงก็ไม่ค่อยมีเพราะเป็นชะนีตัวเบา TT___TT ก็เลยส่งคุณแฟนไปทำก่อนตอนนั้น

ช่วงก่อนหน้านี้แฟนเราฉีดมา เป็นแบบที่บวม 1-3 วัน

ซวยหน่อยเจอยี่ห้อบวมเยอะก็บวมไปเป็นอึ่งอ่างเลยค่ะ 5555

ถามว่ามันลงมั้ย มันก็คงลงมั้ง ไม่รู้สิ ตอนนั้นไม่ได้สนใจ พอทีนี้ต้องมาทำเอง

ก็ต้องรู้บ้าง ที่ฉีดมาเป็นเมโสแฟตชนิดที่ไม่บวม (บวมประมาณ 2-3 ชั่วโมงหลังทำ)

ฉีดบริเวณเหนียง เงยคางขึ้น ละก็จิ้มไปเลยเกือบ 15-20 ทีได้ ยิ่งใต้คางนี่รอยเพียบ

บวมแปปนึง ละก็ยุบลง จริงๆเมโสแแฟตสามารถ ฉีดซ้ำได้ทุก 2 อาทิตย์

(แต่อยู่เชียงรายไม่มีที่ฉีดไง ใครก็ได้สปอนเซอร์หน่อยค่า 5555555555)

ผลก็คือ ตอนนี้เหนียงก็ลดลงหน่อยนึงนะ ถ้าทำซ้ำก็น่าจะดี

สำหรับใครที่หน้าบานเพราะแก้ม เห็นว่าเค้ามีตัดไขมันกระพุ้งแก้มอยู่ ใครแก้มบานก็

ลองศึกษากันดูเอาเองนาจาาาา

ปล.เรื่องเมโสแฟตนี่ จำไม่ได้ว่ายี่ห้ออะไรต้องกราบขออภัยด้วยค่า

อันนี้รูปรอยเข็มคืนแรก คือไอจุดดำใต้คางอะ รูปแย่ไปนี๊ด

มีตรงด้านล่างของกรอบหน้าอีกแต่ไม่ได้ถ่ายมา

12077466_422207184644887_1767964785_n

มาถึงส่วนที่กรี๊ดที่สุด คือ ฟิลเลอร์

พูดตรงๆนะ ใจนึงก็กลัว อีกใจนึงมันก็ว้าว คือเห็นรีวิวคนนู้นคนนี้มาเยอะ

ตั้งแต่ฉีดดอลลี่อาย ฉีดหน้าผาก (พูดจริงอยากทำแต่กลัวมากก)

อย่างที่บอกว่าไอคลีนิคที่ไปเนี่ย มันรวมฉีดฟิลเลอร์ด้วย 1 cc.

ซึ่งจริงๆแล้วพอใจจะฉีดกี่ซีซีก็ลองให้คุณหมอประเมินดูได้

ด้วยความที่เป็นคนมีคางอยู่แล้วก็คิดว่า 1 cc เนี่ย พอกับคางเรา ก็เลยตัดสินใจฉีด

ยี่ห้อที่ฉีดคือ Restylane

ตอนฉีดเค้าก็ฉีดเข้าจากคางทางซ้าย ทางขวา แล้วก็ข้างล่าง

จะได้ยินเสียงยาเลยแหละว่ามัน ครืดดดดดดด ฟืดดดดดดดดดดด

ถามว่าเจ็บมั้ย ก็จี๊ดๆนะ แต่น้อยกว่าโบหน้าผากแน่นอน 55555

หมอก็จะเอามือมาคลึง ปั้นให้เป็นทรง ชอบแบบไหนก็ว่าไป

จุดพีคคือ ตอนปั้นเสร็จ สวยม๊ากกกก

ดูจากรูปได้ 5555555 หน้าแหลมเป็นตะปู แต่ชอบมากนะ

ทีนี้ความเครียดบังเกิด คือหลังจากฉีดเสร็จเนี่ยมันก่อบ่าได้มีอาการบวมเกิดขึ้น

ในตอนแรก ซึ่ง ก็ไม่รู้ว่ามันจะบวมไง

ปรากฎว่ามันบวมค่ะ บวม แดง ม่วงๆ ในใจคิด เอาแล้วไง เอาแล้วววว ไงละ

คำว่าจะเน่ามั้ยนี่เป็นคำแรกที่คิดเลยพูดจริง แบบ ชิบโหงละ 5555

ขอแปะรูปให้ดูก่อน

นี่คือหลังทำเสร็จทันที

12166661_422204267978512_2050674785_n

นี่คือตอนมันบวม โอ้ยยยย ใจบ่าดี

12166222_422203931311879_1715899597_n

รูปนี้วันที่ 5 เริ่มหายแย้ววว *w*

12167000_422204284645177_1437191736_n

ก็เลยรีบบบบบไปปรึกษาพี่เม้าซ์เลย (พี่เม้าซ์ http://dada-k.blogspot.com/)

จุดนี้หนูขอบคุณพี่เม้าซ์มากค่ะ ทำให้หนูหายห่วงเลย TT

ใครสนใจทำศัลยกรรม ปรึกษาพี่เม้าซ์เลยดีกว่าค่า แบบไม่ต้องซีเรียสเลยทำแบบมั่นใจ

แอบโฆษณาให้เพราะพี่เม้าซ์น่ารัก ให้คำปรึกษาดีมาก ฮือ ( IG : arindada.k )

ต่อ.. เลยปรึกษาพี่เม้าซ์ว่าอาการบวม ช้ำ ม่วงแบบที่หนูเป็นอยู่นี่มันปกติมั้ย

ได้คำตอบโล่งใจมาว่าปกติน้า รอยช้ำช้ำง่ายก็จะมีบ้าง มันจะตึงๆอยู่ประมาณ 1-2 อาทิตย์

ซึ่ง 2 วันแรกนี่ตึงมากกกกกกกกกก 5555555555

ตึงแบบยิ้มจะไม่ได้อะเห้ย เพราะทำหลายอย่างพร้อมกัน

แต่พอมันแดงๆช้ำๆเราก็แป้ว พี่เม้าซ์แนะนำทานยาแก้อักเสบกันไว้หน่อย ถ่ายรูปเก็บไว้นิดนึง

เผื่อมีปัญหา แต่ตอนนี้ผ่านมา 1 เกือบ 2 อาทิตย์ หายบวมเรียบร้อยสวยงาม ฮื่อ โล่ง

แต่ตอนนี้ปลายคางก็ยังเป็นไตๆอยู่นี๊ดนิด แต่นอกนั้นนิ่มดีแล้วนั่งท้าวคางได้อยู่ ฮี่ๆๆ

ขอขอบคุณพี่เม้าซ์อีกทีจริงๆค่ะ 555555

พอทำทุกอย่างเข้าที่ ผ่านมาก็ถือว่าหน้าเข้ารูปดีเลยแหละ

โดยเฉพาะคางที่ดีงามพระรามสี่ เดี๋ยวมีอีกเคสนึงคือเพื่อนทำคางมา เดี๋ยวให้เพื่อนมาเขียนให้

ว่ารู้สึกยังไงดีกว่า จะได้มาเปรียบเทียบว่าระหว่างทำคาง กับฉีดคาง อันไหนสวยเริ่ดเชิดกว่าเนอะ

ก็นี่ก็หน้าปัจจุบันค่า ดีนะ ชอบแบบว่าวีเชพของแท้จะมุมข้างมุมบนมุมล่างก็เรียบร้อยดี

ถามว่ามีอะไรอยากลองอีกมั้ย ก็อยากร้อยไหมดูนะแต่ยังกลัว 55555

แค่นี้เพื่อนก็ด่าแล้วว่าหน้าแทงหมอนขาด

แปะรูปภาพรวมๆทุกมุมให้ดูละกัน

12064184_422202914645314_998074756_n

CIMG1130

CIMG1132

(ที่คางแดงๆคือบรัชออนนะ ชอบปัดคางด้วย)

CIMG1140

CIMG1146

มุมเสยก็มา จะเห็นว่ามันมีบางส่วนที่เป็นไตๆอยู่ ก็คงต้องรอมันยุบ (รึป่าว.. 555555)

CIMG1148

CIMG1156

คางอีกทีแบบซูมๆเนอะ

CIMG1154

หน้าผาก อันนี้คือเลิกคิ้วขึ้นไปสุดแล้วนะ.. ได้แค่นี้ ตึงอลัง ตึงจนงง

CIMG1166

เหนียงที่ยังเหลืออยู่พอให้น่ารัก

CIMG1170

เหลืออยู่เท่านี้ 55555555

เอาจริงๆกรอบหน้าก็ยังไม่ชัดมาก ค่อยๆทำไปละกัน มันตึง

ก็บทความนี้รูปเพียบเลย

ข้อควรระวังในการฉีดอะไรก็ตาม

  • หาคลีนิคที่เชื่อถือได้ ฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
  • ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ ในปริมาณน้อย เพื่อให้ทุกอย่างที่ฉีดไปอยู่นานขึ้น
  • งดอาบน้ำอุ่น น้ำร้อน 7 วันแรก (ไม่รู้เห็นเค้าทำกัน)
  • ยิ่งโดนความร้อนมาก พวกที่ฉีดไปจะสลายเร็วขึ้น ต้องทำใจ
  • ดูรีวิว และตัดสินใจให้ดีที่สุด

สรุปว่าจบบทความนี้ดีกว่าเน้อะ ไว้จะมาเขียนเรื่องทำคางอย่างที่บอก

กับเรื่องทำหน้าอก ที่ยังไม่ได้เขียนจริงจังซักที 55555

เอาจริงๆไม่ค่อยอยากจะพูดเรื่องแบบนี้เท่าไหร่แต่อยากจะบอกว่า

นี่ คื อ ห น้ า เ ร า เ ร า พ อ ใ จ แ บ บ ไ ห น ก็ เ รื่ อ ง ข อ ง เ ร า

จะหน้าจริงหน้าปลอมฉีดไม่ฉีดอะไรก็หน้าเราค่ะ เราเลือกเอง

พอดีชอบมีคนมาด่าว่า หน้าปลอม หน้าพลาสติกอะไรแบบนี้

มีเงินก็ทำจ้า อยากสวยก็ทำจ้า

ถ้าไม่อยากสวย หรือไม่อยากทำ ไม่ต้องมาอวดค่ะว่าไม่ได้ศัลยกรรม

ไม่ต้องมาเหยียดคนอื่นค่ะ ตัวใครตัวมันค่า


ติดตามกันได้ที่

IG : ndmikkiholic

หรือเฟสบุ๊ค

www.facebook.com/idorholic นะคะ

ไปละจ้า จุ๊บๆ